ความหนืด (Viscosity) และความหนาแน่น (Density) ของน้ำดิน
การบดที่ดีเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุดนั้น จำเป็นต้องคำนึงถึงค่าความหนืด และความหนาแน่นของน้ำดิบในขณะทำการบดด้วย โดยค่าความหนาแน่นนั้นไม่ควรที่จะต่ำเกินไป หรือสูงเกินไปมากแต่ควรมีค่าที่สูงกว่าค่าความหนาแน่นในการใช้งานประมาณ 3-10%
ความหนืดที่สูงเกินไป จะทำให้น้ำสลิปไปหุ้มพื้นผิวของลูกบดไว้ จนทำให้ลูกบดเคลื่อนตัวได้ลำบาก ทำให้การตกกระทบของลูกบดเพื่อให้เกิดการบดที่ดีนั้นทำได้ยากขึ้น สำหรับค่าความหนืดที่ต่ำเกินไปก็จะทำให้ไม่เกิดแรงเสียดทาน (Frictional Force) ระหว่างลูกบดกับวัตถุดิบที่เพียงพอ การบดก็จะมีประสิทธิภาพต่ำลง ดังนั้น ในการผลิตน้ำสลิป โดยใช้ Ball Mill ที่เป็นแบบ Batch Mill นั้น จำเป็นจะต้องทดลองหาค่าความหนืดและความหนาแน่นที่เหมาะสมในการบด เพื่อให้ประสิทธิภาพในการบดสูงสุด
นอกจากนี้ ถ้าค่าความหนืดของน้ำสลิปสูงเกินไป เวลาถ่ายน้ำสลิปก็จะมีน้ำสลิปเหลือค้างอยู่ระหว่างลูกบดเป็นจำนวนมาก เพราะการถ่ายน้ำสลิปจากหม้อบดแบบ Batch นี้ เราจำเป็นต้องหยุดหม้อบดเอาไว้ ก่อนการถ่ายน้ำสลิป ถ้าน้ำสลิปมีความหนืดและมีค่า Thixotropy สูงก็จะทำให้มีน้ำสลิปเหลือค้างอยู่ในหม้อบดมาก ซึ่งจะส่งผลต่อการเติมวัตถุดิบใน batch ถัดไป เพราะเราไม่สามารถทราบได้ว่า มีน้ำสลิปคงเหลืออยู่เท่าไหร่ จึงทำให้ประสิทธิภาพในการบดใน batch ต่อๆ ไปลดลงเรื่อย ๆจนในที่สุดก็จำเป็นต้องทำการล้างหม้อบด โดยการเติมน้ำเข้าไปแล้วหมุนตัวเปล่าให้น้ำทำการล้าง น้ำสลิปที่คงเหลืออยู่ ทำให้น้ำสลิปที่อยู่ข้างในกลายเป็น Waste และเสียเวลาในการทำงานเพิ่มขึ้น
หน้าเว็บ
- หน้าแรก
- องค์ประกอบของเครื่อง ball mill
- ประเภทของเครื่องบอลมิลล์
- ปริมาณของลูกบดที่ใช้ในหม้อบด
- ขนาดของลูกบดและสัดส่วนในแต่ละขนาดที่ใช้เติมลงในหม้...
- ชนิดของลูกบดที่ใช้เติมในหม้อบด
- ชนิดของตัวกรุหม้อบด (Liner)
- ความเร็วในการหมุนหม้อบด (Critical Speed)
- การคำนวณกำลังขับของมอเตอร์หม้อบด
- ความสม่ำเสมอของวัตถุดิบและความแข็ง (Hardness) ของวัตถุดิบ
- ปริมาณของวัตถุที่เติม และปริมาณของ Medium ที่เติม
- ความหนืด (Viscosity) และความหนาแน่น (Density) ของน้ำดิน
- ชนิดของ Deflocculant และปริมาณการเติม
- วิธีการเติมวัตถุดิบและตัวช่วยปรับปรุงการไหลตัว
- อ้างอิิง
- ผู้จัดทำ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น